สวัสดีครับ ผมชื่อนายเกียรติศักดิ์ ศรีภาย ชื่อเล่น ต๊ะ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 5 โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา จังหวัดสระบุรี สอบชิงทุนได้ลำดับที่ 1 ประเทศนิวซีแลนด์ 3 สัปดาห์ สอบรอบกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมเดินทางกับนักเรียนแลกเปลี่ยนคนอื่นๆ และอาจารย์ประจำกลุ่มรวมจำนวน 18 คน ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมืองม็องกาทูโรโท (Maungaturoto)  ที่โรงเรียนมัธยมโอทามาเทีย (Otamatea high school)

        ก่อนการเดินทางไปยังประเทศนิวซีแลนด์ 3 วัน ทางโครงการแจ้งให้ทราบว่า ผมจะได้รับครอบครัวอุปถัมภ์ (Host family) 2 ครอบครัว โดยจะอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์แรกในวันหยุดสุดสัปดาห์ และหลังจากนั้นก็จะไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ครอบครัวที่สองจนจบระยะเวลา 3 สัปดาห์ จนมาถึงวันเดินทางในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นวันเดินทาง พวกเราทั้ง 18 คน ได้ออกเดินทางไปยังเมืองม็องกาทูโรโท ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในหมู่เกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเมืองเล็กที่มีอากาศบริสุทธิ์ ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเมืองเป็นทุ่งหญ้ากว้างสำหรับเลี้ยงแกะและมีป่าสนในบางพื้นที่

        ในวันแรกของการไปถึง ผมและทุกคนในกลุ่มจำนวนทั้ง 18 คน ต่างหลงใหลในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ ประกอบกับอุณหภูมิที่กำลังพอดีตัวสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor activities) ทำให้ทุกคนต่างตื่นเต้นในช่วงแรกๆหลังจากนั้นไม่นานทางครอบครัวอุปถัมภ์ก็มารับนักเรียนแลกเปลี่ยนของแต่ละคนครอบครัวกลับบ้าน

      ในวันหยุดสุดสัปดาห์แรก ผมได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ ครอบครัวแรกในการตกปลา และเดินทางไปยังเมืองโอ๊คแลนด์ (Auckland) ที่ห้าง Westfield ในส่วนของครอบครัวอุปถัมภ์ครอบครัวแรกก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นมามากและก็ยังไม่ได้รู้จักกันดีเพราะผมอาศัยอยู่กับพวกเค้าเพียงแค่ชั่วคราว

      มาถึงวันจันทร์ซึ่งเป็นวันแรกและครั้งแรกของการเข้าไปในโรงเรียนมัธยมของประเทศนิวซีแลนด์ ทุกคนในกลุ่มดูตื่นเต้นในช่วงแรกๆเพราะด้วยความไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสังคม วัฒนธรรมการทักทาย และอื่นๆ รวมไปถึงในเช้าวันแรกของการไปโรงเรียน พวกเราได้รับการต้อนรับจากนักเรียน อาจารย์และผู้อำนวยการเป็นอย่างดีโดยมีคณะกรรมการนักเรียนของโรงเรียนมัธยมโอทามาเทียรเข้ามาทำ”ฮองงิ” (Hongi) เป็นการทักทายแบบดั้งเดิมของชาวเมารีซึ่งเป็นคนพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ในเกาะเหนือ ในขณะเดียวกันทางเราก็ได้ทำการแสดงแบบสั้นๆเพื่อเป็นการทักทายกลับไปด้วยเช่นกัน

      หลังจากกิจกรรมในภาคเช้าสำเร็จเสร็จสินไปได้ด้วยดีทางผู้ประสานงานท้องถิ่น (Local coordinator) ก็ได้พาทุกคนในกลุ่มไปพบกับบัดดี้หรือเพื่อน (Buddy) ที่เราจะเข้าไปเรียนในชั้นเรียนด้วยพร้อมกับทำการปฐมนิเทศในเวลาเดียวกัน และเมื่อทุกอย่าเสร็จสิ้นแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเข้าชั้นเรียนกับบัดดี้จนถึงเวลา 15:25 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนตามปกติของโรงเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์ทุกคนในกลุ่มก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับครอบครัวอุปถัมภ์ครอบครัวที่สอง

ในตอนแรกที่เจอกันกับพวกเค้าก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคยและเกรงใจอยู่บ้าง

        แต่เนื่องจากประสบการณ์ที่เคยมีร่วมกับชาวต่างชาติในบางส่วน จึงเลือกที่จะบอกพวกเค้าตรงๆถึงความรู้สึกที่มี หรือบางเรื่องที่จำเป็นจำ เช่น การรับประทานอาหาร หรือการขออนุญาตออกไปเดินข้างนอกในช่วงเย็น ทางครอบครัวอุปถัมภ์ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี เค้าพยายามทำให้ผมรู้สึกได้ตลอดถึงการต้อนรับอันแสนอบอุ่น และการเปิดใจของพวกเค้าที่อยากจะเรียนรู้วัฒนธรรมไทยพร้อมกับยินดีที่จะรับผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพวกเค้าตลอด 3 สัปดาห์

        ในระหว่าง 3 สัปดาห์ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ผมและทุกคนในกลุ่มได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและเรียนรู้วัฒนธรรมนิวซีแลนด์ในเวลาเดียวกัน ในบางส่วนอาจจะมีบ้างที่นับว่าเป็น Culture shock หรือภาวะการเข้าสู่วัฒนธรรมใหม่ที่คนในกลุ่มส่วนมาก และรวมถึงตัวผมเองที่ไม่มีความคุ้นเคย แต่พวกเราก็เลือกที่จะลองและปรับตัวจนผ่านมันไปได้ดีในหลายๆกิจกรรม เช่น ฮองงิ และ ฮาคา (Haka) แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางกิจกรรมที่ทางผู้ประสานงานท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจ และแสดงให้เห็นถึงความสวยงามของประเทศนิวซีแลนด์ เช่น การดำน้ำในเกาะ Poor knights island และการขี่ม้าผ่านเส้นทางธรรมชาติ

หลังจากที่ได้ทำกิจกรรมมาอย่างมากมายก็มาถึงช่วงสุดท้ายของสัปดาห์ที่ 3

      ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมภายในนิวซีแลนด์ ผมและทุกคนในกลุ่มจะต้องเตรียมการสำหรับวัน Thai night ซึ่งถูกจัดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2562 โดยในงานประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ นิทรรศการไทย และการแสดงวัฒนธรรมไทย โดยในนิทรรศการไทยประกอบไปด้วย 3 หัวข้อย่อย ได้แก่ ความเป็นมาของตัวอักษรไทย (Thai scripts) ลายไทย (Thai painting) และ ผีไทย (Thai ghosts) ส่วนการแสดงวัฒนธรรมไทยประกอบไปด้วย 2 การแสดงได้แก่ ประวัติความเป็นมาของเทศกาลสงกรานต์โดยมีการรำแฝงเข้าไปด้วยเป็นส่วนหลักและการร้องเพลงประสานเสียงในบทเพลงพระราชนิพนธ์ และส่วนที่ 3 คือการกล่าวสุนทรพจน์ขอบคุณอาสาสมัครทั้งหมด

      การแสดงถูกจัดขึ้น 2 รอบ โดยรอบแรกถูกจัดขึ้นที่โรงเรียนให้แก่นักเรียนในช่วงเช้าแต่ถูกจัดขึ้นเพียงเป็นส่วนย่อเนื่องจากเวลาที่มีจำกัด ส่วนการแสดงรอบที่สองถูกจัดขึ้นที่สถานที่รองรับของเมืองโดยเป็นการแสดงแบบเต็ม การแสดงทั้งสองครั้งที่ถูกจัดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้ผู้คนในท้องถิ่นเนื่องจากคนส่วนมากไม่เคยเดินทางมาประเทศไทยแต่ได้ยินเกี่ยวกับประเทศไทยอยู่หลายครั้งทำให้เกิดความสนใจในหมู่ผู้คนในท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ 3 ซึ่งเป็นการกล่าวสุนทรพจน์โดยผมได้เป็นตัวแทนกลุ่มในการกล่าวขอบคุณแก่อาสาสมัครทุกคน ได้แก่ บัดดี้ ครอบครัวอุปถัมภ์ และผู้ประสานงานท้องถิ่น ซึ่งทำให้ผู้คนในท้องถิ่นมองว่ามันเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนและกตัญญูของเยาวชนไทยที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ยังเป็นเอกลักษณ์และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศชาติ ด้วยเพราะเหตุนี้จึงทำให้ได้รับคำชมกลับมาอย่างมากมายเกี่ยวกับความกล้าแสดงออกโดยไม่ใช่เพียงแค่ผมเพียงคนเดียวที่ถูกกล่าวถึงแต่เป็นการกล่าวถึงในภาพรวมของเยาวชนไทย

      หลังจากที่เสร็จกิจกรรมทั้งหมดในวัน Thai night แล้ว ทุกคนก็ช่วยกันทำความสะอาดและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองและแยกย้ายกันกลับบ้านของครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันถัดมา ในส่วนของครอบครัวอุปถัมภ์ของผมก็มีการอำลากันที่โรงเรียนในตอนเช้าโดยตัวผมเองก็ได้กล่าวขอบคุณทางครอบครัวอุปถัมภ์ที่ยอมเปิดใจรับตัวผมเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทางครอบครัวอุปถัมภ์ตลอด 3 สัปดาห์ พร้อมกับทำการกอดอำลาหลังจากนั้นจึงไปรวมตัวกับคนอื่นๆและเริ่มออกเดินทางสู่สนามบินโอ๊คแลนด์ เมื่อถึงสนามบินเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมก็ได้พบกับนักเรียนแลกเปลี่ยนระสั้นจากโครงการเดียวกันอีกกลุ่มหนึ่งระหว่างการรอขั้นตอนในการดำเนินการต่างๆ เราก็ได้บอกเล่าประสบการณ์ที่มีให้กันฟังระหว่างการรอจนถึงเวลา 13:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เที่ยวบินของเราก็เริ่มออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ในเวลา 21:00 น. พวกเราถึงคนกลับถึงประเทศไทยระหว่างการรอรับกระเป๋าสัมภาระทุกคนในกลุ่มก็ได้กล่าวอำลากันและแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาของตัวเองไปในที่สุด และนี่คือประสบการณ์ของผมสำหรับ 3 สัปดาห์

    สุดท้ายนี้สิ่งที่ผมอย่างจะกล่าวว่าการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนระยะสั้นของผมที่ประเทศนิวซีแลนด์ถือว่าเป็นความทรงจำอันล้ำค่าของชีวิตเยาวชนว่าครั้งหนึ่งผมได้บินออกไปในโลกกว้าง และได้เรียนรู้ผ่านการสัมผัสประสบการณ์จริงมากกว่าที่จะได้แค่ฟังเป็นพันรอบแต่ไม่เคยได้สัมผัส หรือเห็นด้วยตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า

Better to see something once than hear about it a thousand times

นายเกียรติศักดิ์ ศรีภาย

ผมอยากจะฝากน้องๆนักเรียนแลกเปลี่ยนในรุ่นถัดไป

        มันไม่ผิดที่ทุกคนจะมีความคาดหวังในบางสิ่งที่เราต้องการจะได้พบเจอ แต่ถ้าหากความคาดหวังที่เรามี ทำให้เราผิดหวังก็อย่าเลือกที่จะหยุดหวัง ให้คาดหวังต่อไปแล้วเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อที่จะอยู่กับมันจนวันหนึ่ง เมื่อเวลาได้ทำหน้าที่ มันจะแสดงคุณค่าของมันออกมาให้เห็นในรูปแบบของตัวมันเอง แล้วเราก็จะรู้ได้เลยว่าจริงๆแล้ว สิ่งที่เราคาดหวังไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แต่มันแค่มีดีในด้านที่เราไม่ได้คาดหวังให้มันเป็นต่างหาก

 

นาย เกียรติศักดิ์ ศรีภาย
เยาวชน ECE รุ่นเมษายน 2562
หัวหน้ากลุ่มนิวซีแลนด์ กลุ่มที่ 2
ประเทศนิวซีแลนด์ 3 สัปดาห์
เมือง Maungaturoto