11 ข้อดีของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน

          ก่อนที่เราจะไปทราบถึง 11 ข้อดีของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เรามาทำความรู้จักกับคำว่านักเรียนแลกเปลี่ยนกันก่อน “ นักเรียนแลกเปลี่ยน ” คือ นักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา หรือสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อไปศึกษาที่ต่างประเทศตามระยะเวลาที่โครงการกำหนด “ แลกเปลี่ยน ” ในที่นี้ คือการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม แลกเปลี่ยนภาษาซึ่งกันและกัน เมื่อนักเรียนได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนก็จะนำเอาวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่และเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ

          การเดินทางไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมสามารถเลือกไปได้หลายประเทศ และถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ การไปแลกเปลี่ยน แม้จะเป็นประเทศที่เคยไปท่องเที่ยวมาแล้ว หรือยังไม่เคยไปก็ตาม จะทำให้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นชิน การเรียน การอาศัยอยู่กับ Host Family หรือครอบครัวอุปถัมภ์ที่จะคอยดูแลเราในเรื่องต่างๆ การได้เจอเพื่อนใหม่ๆ การเรียนรู้ภาษา การตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆด้วยตัวเอง และแน่นอนว่าการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนั้นมีข้อดีมากมายที่หลายๆคนอาจจะคิดไม่ถึง หรือเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของเด็กคนหนึ่งไปเลยก็ว่าได้ ข้อดีของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน 11 ข้อ ที่ผู้เขียนได้นำมาเขียนนี้เป็นข้อมูลที่ได้จากการสอบถามจากนักเรียนแลกเปลี่ยนในประเทศต่างๆทั่วโลกที่มีวัฒนธรรมและภาษาแตกต่างกันออกไป

1

รู้จักเอาตัวรอด

          สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ การใช้ชีวิตในประเทศที่ไม่คุ้นชินอย่างประเทศที่ไปแลกเปลี่ยนทำให้บางครั้งอาจเกิดสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องใช้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเอง เช่น ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอาจทำให้เราสามารถเอาตัวรอดได้ดียิ่งขึ้น แต่หากเป็นในอดีตจากการสอบถามรุ่นพี่ที่เคยไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศอังกฤษแล้วเกิดพลัดหลงกับกลุ่มเพื่อนในกรุงลอนดอน สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ วิธีการแก้ปัญหาของเขาคือการตะโกนเพื่อหาคนไทยที่อยู่แถวนั้น เพื่อที่จะช่วยให้เขาเดินทางกลับมาหาเพื่อนๆได้ และอีกทักษะที่สำคัญและจำเป็นต่อการเอาตัวรอดหากไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศคือ การช่างสังเกต จากการสอบถามรุ่นพี่ที่เคยไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศออสเตรเลีย เขาต้องการที่จะขึ้นรถเมล์แต่รถเมล์กลับขับเลยป้ายไป เพราะ ไม่ได้สังเกตว่าที่ป้ายรถเมล์มีข้อความเขียนไว้ว่า “ Hail driver ” หมายถึง หากต้องการจะขึ้นรถเมล์คันไหนให้โบก หากไม่โบกคนขับรถเมล์ก็จะไม่จอดให้เราขึ้น ดังนั้นการรู้จักช่างสังเกตจึงเป็นสิ่งสำคัญ

2

รู้จักปรับตัว

          รู้จักปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน แน่นอนว่าต้องอาศัยอยู่ในประเทศที่ไกลบ้านและไม่คุ้นชินกับบ้านเมือง รวมถึงสภาพอากาศ ดังนั้นการปรับตัวจึงจำเป็น นักเรียนแลกเปลี่ยนหลายคนที่เกิดอาการคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ขณะที่ไปอยู่ต่างประเทศแรกๆ หรือ homesick จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้อาศัยอยู่กับHost Family ได้ ครั้งหนึ่งผู้เขียนมีโอกาสได้อาศัยอยู่กับ Host Family ที่เป็นมังสวิรัติ ผู้เขียนเกิดอาการ homesick เพราะกลัวว่าจะอยู่กับพวกเขาไม่ได้เพราะตัวเองเป็นคนที่ไม่ชอบทานผัก คิดถึงบ้าน แต่การปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น ปฏิบัติตามกฎ ลองทานอาหารมังสวิรัติทำให้ผู้เขียนอยู่กับHost Family ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น กินผักได้เยอะมาก จากที่มองว่าอาหารมังสวิรัติต้องไม่อร่อยเหมือนอาหารไทยที่ผู้เขียนชอบทาน แต่ความเป็นจริงแล้วอาหารที่ Host Family ทำให้ถึงแม้จะไม่มีเนื้อสัตว์เลยแต่ก็อร่อยไม่แพ้กัน

3

มีวินัยในตนเองมากขึ้น

          นักเรียนแลกเปลี่ยนทุกคนถึงแม้จะได้อาศัยอยู่กับ Host Family ที่จะคอยดูแลในเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวัน แต่ก็ต้องรู้จักรับผิดชอบในเรื่องของตัวเอง เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับครอบครัวของHost Family และปฏิบัติตามกฎที่Host Family แต่ละบ้านตั้งไว้ เช่น การตื่นนอนให้ตรงเวลา เก็บที่นอนทุกครั้งหลังลุกจากเตียง เก็บของของตัวเองให้เป็นระเบียบ การอาบน้ำตามที่เวลาที่กำหนด และอื่นๆ

4

มีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น

          การอาศัยอยู่ที่บ้าน Host Family เป็นการฝึกให้เราเป็นคนที่มีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น เพราะถือเป็นมารยาทที่ดีที่จะได้เรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกับ Host Family เช่น การช่วยจัดโต๊ะอาหาร ช่วยล้างจาน รดน้ำต้นไม้ ดูดฝุ่น กิจกรรมต่างๆภายในบ้าน และยังรวมถึงการช่วยเหลือกันของเพื่อนๆในกลุ่มที่เดินทางไปแลกเปลี่ยนด้วยกัน เช่น การจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทยที่ต้องทำร่วมกัน การช่วยกันคิด ช่วยกันวางแผนการแสดงต่างๆ

5

มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น

          จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน การไปแลกเปลี่ยนทำให้มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น เนื่องจากปกติแล้วไม่ค่อยกล้าพูดภาษาอังกฤษในที่สาธารณะเพราะกลัวว่าจะพูดผิด แต่หลังจากที่ได้ไปแลกเปลี่ยนประเทศนิวซีแลนด์ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆเพียง 9 สัปดาห์ แต่ก็ทำให้ผู้เขียนมีความกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น กล้าที่จะพูดคุยกับ Host Family กล้าที่จะคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติมากขึ้น โดยไม่เขินอาย เพราะชาวต่างชาติเข้าใจว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดของเราหากพูดผิดพวกเขาก็จะคอยแก้ข้อผิดพลาดให้ รวมถึงยังคอยให้กำลังใจอีกด้วย

6

ได้เพื่อนต่างชาติเยอะขึ้น

          ข้อนี้จะไม่มีเป็นไปไม่ได้ เพราะการที่ไปแลกเปลี่ยนในต่างประเทศแน่นอนว่าเราต้องได้เพื่อนต่างชาติ บางคนอาจเป็นชาวประเทศนั้น หรือบางคนอาจจะเป็นนักเรียนต่างชาติที่มาจากประเทศอื่น ทำให้เราได้เจอเพื่อนมากขึ้นซึ่งการมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติทำให้เราได้ฝึกภาษามากขึ้นและเป็นการสร้างเครือข่ายเพื่อนทั่วโลกซึ่งวันนึงเราอาจมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนเพื่อนๆที่ประเทศของเค้าก็ได้

7

ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ

          การปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องเข้ากับวัฒนธรรมของต่างประเทศถือเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้นไปในตัว วัฒนธรรมการใช้ชีวิต วัฒนธรรมการบริโภคอาหาร เช่น การรับประทานอาหารร่วมกันบนโต๊ะชาวนิวซีแลนด์จะมีอาหารเฉพาะของตัวเองแตกต่างจากคนไทยที่จะทานอาหารที่วางอยู่รวมกันกลางโต๊ะ หรือแม้แต่มารยาทต่างๆที่ไม่เหมือนกับประเทศไทย ส่วนตัวของผู้เขียนเองก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวเมารีซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศนิวซีแลนด์ ในช่วงที่ผู้เขียนไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่ประเทศนิวซีแลนด์กับโครงการเยาวชนอีซีอี แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเกิดความเข้าใจความแตกต่างทางความคิดของคนแต่ละประเทศมากขึ้น

8

ได้พัฒนาระดับภาษาอังกฤษ และได้เรียนรู้ภาษาที 3

          ด้วยสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจำวันขณะที่ไปแลกเปลี่ยนในต่างประเทศเป็นการบังคับตัวเองให้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา รวมถึงนักเรียนที่ไปแลกเปลี่ยนในประเทศที่พูดภาษาที่ 3 เช่น ประเทศบราซิล ที่ใช้ภาษาโปรตุเกส ประเทศอาร์เจนตินา ที่ใช้ภาษาสเปน ก็จะทำให้เราสามารถเรียนรู้ภาษาที่ 3 ได้อย่างรวดเร็ว

9

ได้ท่องเที่ยวต่างประเทศ

          การเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม นอกจากจะได้ไปเรียนภาษา เรียนรู้การใช้ชีวิตรวมถึงวัฒนธรรมต่างๆของคนในประเทศนั้นแล้ว หากมีเวลาว่าง วันหยุดเสาร์อาทิตย์ Host Family ก็จะพาเราไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆภายในเมือง หรือสถานที่ท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือในบางครั้งเราก็สามารถขออนุญาต Host Family ออกไปใช้เวลาว่างกับเพื่อนๆในสถานที่ใกล้ๆบ้านได้ การไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพียงอย่างเดียว เราจะไม่ได้เห็นหรือได้รู้จักสถานที่เล็กๆที่ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวแบบที่เราจะมีโอกาสได้สัมผัสหรือได้ใช้ชีวิตในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน

10

ได้ลองชิมอาหารรวมถึงเครื่องดื่มที่แปลกใหม่

          อาหารรวมถึงเครื่องดื่มแปลกๆที่มาจากต้นตำรับของประเทศนั้นๆ อาจจะหากินได้ยากในเมืองไทย แต่การได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนทำให้เราได้ลิ้มรส ลองชิมอาหารจากประเทศนั้นๆ รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆที่อาจะไม่เคยได้ลองทานหรือลองดื่มมาก่อน

11

ได้ภูมิใจตัวเองในฐานะคนไทย

          การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและวัฒนธรรมของต่างประเทศ ทำให้เราได้รู้ว่าในมุมมองของคนต่างชาติ ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากน้อยขนาดไหน การแสดงวัฒนธรรมไทยสู่สายตาของชาวต่างชาติ เช่น การสอนภาษาไทย การแสดงละครนิทานจากวรรณคดีไทย การแสดงศิลปะการต่อสู้อย่างมวยไทย และการแสดงรำไทย ทำให้เพื่อนๆที่โรงเรียนให้ความสนใจอย่างเกินคาดและต้องการที่จะลองรำไทยในท่าทางต่างๆไปพร้อมกับพวกเรา การใส่ชุดไทยที่คนไทยอาจจะมองเป็นเรื่องธรรมดาแต่ชาวต่างชาติชื่นชมว่างดงามและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก การทำอาหารไทยให้กับ Host Family และเพื่อนๆต่างชาติได้ลองชิม ทำให้พวกเขารู้จักอาหารไทยและชอบทานอาหารไทย และจากการสอบถามจากเพื่อนต่างชาติทำให้ทราบว่าหลายๆคนวางแผนเพื่อที่จะมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยอยู่แล้ว เพราะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมีความสวยงาม ทั้งทะเล หมู่เกาะต่างๆ วัดต่างๆที่มีความสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ อาจเป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่คนไทยแท้ๆอย่างเรากลับต้องไปเข้าใจและภูมิใจในความเป็นไทยถึงในต่างแดน

 ผู้เขียน
น.ส.เจษฎ์สิตา อิสริยาเรืองกุล (เจน)
เยาวชน ECE รุ่นที่ 45 ประเทศนิวซีแลนด์ และ ECX รุ่นที่ 1